Direct and Indirect speech
Direct speech คือ การนำคำพูดของผู้อื่นที่ตัวเองได้ยินมาเล่าให้บุคคลที่เราสนทนาด้วยฟัง โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มอะไรลงไปในคำกล่าวนั้น หรือเรียกว่า ถ้อยคำที่นำมาพูดโดยตรง
เช่น : Jimmy say, “She is my friend.’’ ( จิมมี่พูดว่า, “ หล่อนเป็นเพื่อนของฉัน.”) คำว่า“She is my friend.’’เป็นคำพูดที่จิมมี่พูดออกมาโดยตรง ผู้ซึ่งได้ยินก็ยกเอาคำพูดนั้นไปเล่าให้ผู้อื่นฟังโดยการเล่านั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น กับสิ่งที่ได้ยินจากสิ่งที่จิมมี่พูดเรียกว่า Direct speech
Indirect speech คือ การนำคำพูดของผู้อื่นที่ตัวเองได้ยินมาเล่าให้บุคคลที่เราสนทนาด้วยฟังโดยเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มอะไรลงไปในคำกล่าวนั้น เช่น : Jimmy say that she was his friend.’’ ( จิมมี่พูดว่าหล่อนเป็นเพื่อนของเขา.) คำว่า that she was his friend.’’เป็นคำพูดที่ผู้เล่านำมาจากคำพูดของจิมมี่ แต่นำมาดัดแปลงคำพูดของผู้ที่ที่นำไปเล่าเสียใหม่ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วจิมมี่อาจจะไม่ได้พูดเช่นนั้น แต่ผู้เล่านำมาดัดแปลงเป็นคำพูดของเขา เรียกว่า Indirect speech
รูปแบบของ Direct Speech
1.วางไว้หน้าประโยค Jimmy say, “She is my friend.’’ ข้างหลังประโยคต้องใส่ commaเสมอ และข้อความในเครื่องหมายคำพูดตามการใช้แบบที่1นี้ จะต้องนำด้วยอักษรตัวใหญ่
2.วางท้ายประโยค “She is my friend.’’ Jimmy say. มีเครื่องหมายcommaอยู่หน้าเสมอ และข้อความในเครื่องหมายคำพูดต้องขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ
3.วางกลางประโยค “She,” Jimmy say , “is my friend.’’ข้างหน้า และข้างหลังjimmy say ต้องมีเครื่องหมายcomma คั่นเสมอ จบข้อความที่อยู่หลัง jimmy say ต้องใส่เครื่องหมาย full stop (.)
หลักการเปลี่ยนประโยค Direct speech เป็น Indirect speech
การเปลี่ยนประโยคDirect speech เป็น Indirect speech มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ 4 ตำแหน่งได้แก่
1.เปลี่ยนแปลงคำกริยาของประโยคนำ (Reporting Verb)
Direct
|
เปลี่ยนเป็น
|
Indirect
| ||||||||||
Say
Said
Say to + บุคคล
Said to + บุคคล
|
Say that
Said that
tell + บุคคล + that
told + บุคคล + that
|